วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เขา ? พัฒนาได้

 ก่อนหน้านี้ ฉันได้รู้จักเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เพื่อนๆของเขาและคุณครูที่นี้เรียกเขาว่า พี่มายด์ ซึ่งตอนนั้นเธอกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5  ฉันเองไม่ได้มีโอกาสสอนเขาหรอก เพราะว่าตัวเองเป็นครูประจำชั้นอยู่ที่มัธยม  ได้แต่ข่าววีรกรรมอันแสบซ่า และความเอาแต่ใจ ที่คุณครูประจำชั้น และคุณแม่ของเขาเล่าให้ฟัง   พูดถึงวีรกรรมของเขา คุณครูเส็ง ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของเขาก็เคยเล่าให้ฟังว่าวันนี้ตัวเองรู้สึกแย่มากกับเหตุการณ์นี้ ดิฉันก็เลยได้ถามว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง  คุณครูเส็งได้เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ ช่วงตอนบ่ายวันหนึ่งที่ตัวเองพาเด็กๆ ป.5 ไปเล่นวอลเลย์บอลอยู่ที่สนาม ก็เล่นกันตามปรกติ พอดีครูเส็ง เสริ์ฟ ลูกวอลเลย์บอลไปถูกพี่มายด์  น่าจะโดนบริเวณหน้าเข้า เขาก็โวยวายเสียงดัง  ตัวเองเลยได้เข้าไปดู แล้วก็กล่าวขอโทษเขา แต่ประโยคที่ตอบกลับมาจากเขาคือ แล้วมันหายไหมล่ะตอนนั้นมันอาจคงเป็นเพราะเขาโมโหมาก อันนี้ครูเส็งบอกว่าก็เข้าใจ เพราะเข้าเป็นเด็ก  แต่ว่าหลังจากวันนั้นมายด์ก็ไม่ค่อยพูดกับครุเส็งอีกเลยซึ่งยายกับแม่ของเขาก็มาเล่าให้ฟังอยู่ตลอดว่าเขา เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมาก  ชอบโวยวายเสียงดังไม่ว่าจะคุยกับใคร ซึ่งทำให้แม่และยายบอกว่ากังวลเรื่องนี้มากๆ  ซึ่งหลังจากเรื่องราวที่คุณครูเส็งเล่าให้ฟังเกี่ยวกับพฤติกรรมของพี่มายด์  ฉันเองก็จะได้ยินและได้เห็นวีรกรรมอื่นๆของเธออีกหลายเรื่อง แต่ก็ตามประสาเด็กที่ต้องใช้เวลาในการปรับตัว  และตอนนี้ พี่มายด์ก็ได้เรียนจบ ป.6 ละเลือกที่จะเรียนต่อ ม.1 ที่นี้ ซึ่ง Quarter นี้ฉันได้ขออนุญาต พี่ณี ซึ่งเป็นคุณครูพี่เลี้ยงและเป็นหัวหน้าช่วงชั้นมัธยม  ที่ค่อยให้คำแนะนำและคำปรึกษากับพวกเราที่เป็นคุณครูน้องๆทุกคนมาโดยตลอด  ว่าฉันต้องการเป็นลองเป็นครูประจำชั้น ม.1 เพราะอยากทดลองพัฒนาตัวเองในด้าน การจัดการห้องเรียนและการจัดการเรียนการสอน ด้วยตัวเองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ จะมีพี่ๆคุณครูช่วยอยู่ เนื่องจากประสบการณ์ของฉันยังน้อยนิด และก็ได้รับอนุญาตให้ไปทำหน้าที่  ช่วงแรกที่เริ่มเปิดเทอม ฉันเองตื่นเต้นมาก แม้จะทำงานเป็นครูมาแล้วกว่า 2 ปีแต่ก็ยังรู้สึกประหม่า อยู่ เพราะต้องคิดหาวิธีการสร้างการเรียนรู้ใหม่ ให้เข้ากับพี่ๆ ม.1 ที่เข้ามา และต้องค้นหาวิธีการเพื่อใช้ปรับพฤติกรรมของพวกเขา ให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น  จากการประเมินการเรียนการสอนและพฤติกรรมของทุกๆคนในสัปดาห์สิ่งที่ต้องปรับปรุงอย่างมากคือ  ระเบียบวินัย  เนื่องจากพวกเขา ติดเล่น  เดินบ้านเสียงดัง เพราะเป็นอาคารไม้  คุยตลอดเวลา  และที่สำคัญคือ พวกเขาทำความสะอาดห้องเรียนไม่เป็นเลย  (บอกได้คำเดียวว่า สัปดาห์แรก ฉันพูดเก่งขึ้นเป็นกองเลย) 
                และวันนี้เป็น สัปดาห์ที่สองของการเรียนรู้ ซึ่งวันหยุดที่ผ่านมา ฉันได้แต่ครุ่นคิดว่า จะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร  ซึ่งการเรียนรู้ที่จะจัดการของตัวฉันกับพี่ม.1 ก็เริ่มต้นขึ้นในเช้าวันจันทร์ ในช่วงโมงแรกของเช้านี้ คือจิตศึกษา  ฉันได้เริ่มบทสนทนากับพวกเข้า เกี่ยวกับว่า แต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้างหลังจากเรียนผ่านไป 1 สัปดาห์  ทุกๆคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ทั้งในมุมที่ทำได้ดีแล้ว และที่ต้องปรับปรุง  และส่วนใหญ่บอกว่า  ตัวเองต้องรับผิดชอบมากขึ้น  เล่นให้น้อยลง  ซึ่งคำตอบนี้ก็เป็นนิมิตหมายอันดี ที่ทำให้ฉันรู้ว่า เขาทุกคน จะถูกพัฒนาได้ด้วยวิถีใดบ้าง  ในช่วงโมงจิตศึกษา ฉันได้เล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพี่ มัธยม ห้องอื่นๆ  และเป้าหมายของเราที่จะต้องไปให้ถึง   รวมถึงได้พูดสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเขาทุกๆคนที่ต้องการพัฒนาตัวเอง    ตลอดทั้งวันของวันนั้น การเรียนการสอนก็เป็นไปโดยปรกติ  แต่พวกเขาทุกๆคน ดูตื่นเต้นกับทุกๆเรื่องที่ได้ทำ เพราะมันเป็นสิ่งใหม่สำหรับเขา  ซึ่งก็พลอยทำให้ฉันมีแรงบันดาลใจที่จะคิดงานใหม่ๆอีกมากมายเพื่อพัฒนาพวกเขา  และในเย็นวันนั้นหลังจากสิ้นสุดการเรียนการสอน  ก็ถึงชั่วโมงของการทำความสะอาดบริเวณต่างๆของห้องเรียน  ซึ่งเรียกว่าเป็นปัญหามากๆ สำหรับพี่ ม.1 รุ่นนี้   เพราะเขาไม่สามารถวางหน้าที่และบทบาทของตัวเองได้ว่าจะต้องทำอะไร  ฉันเองก็เลยได้เรียกรวมและร่วมพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและให้พวกเขาเสนอแนะวิธีการร่วมกัน เพื่อจัดการปัญหานี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พี่ๆ ม.1 แบ่งหน้าที่กันว่าใครจะทำหน้าที่อะไร ซึ่งจากการพูดคุยทุกคนรู้ว่าตัวเองต้องจัดการตรงไหน  รวมถึงตัวฉันด้วย ซึ่งถือคติ ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน”  ดังนั้นก็เลยเริ่มต้นด้วยพาพวกเขาทำ  ความสะอาดมุมต่างๆ ทุกๆที่ ๆเราได้ใช้ประโยชน์ พร้อมทั้งบอกกับพวกเขาว่า ไม่ใช่เราเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์จากที่นี้  เพราะน้องรุ่นหลังๆก็ต้องมาร่วมใช้เช่นกัน  พี่ๆที่เคยมาร่วมใช้ที่นี้  ทุกคนล้วนใส่ใจและเห็นคุณค่าของอาคารหลังนี้ เพราะฉนั้นพี่ลองคิดดูว่าตัวเองต้องทำอะไรเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ทุกอย่างก็เรียบร้อย  ฉันได้เรียกพวกเขาทุกคน มาร่วมกันอีกครั้ง  และตั้งคำถามกับเขาว่า  “พี่ๆ ช่วยคุณครูสังเกตหน่อยซิ ว่าตอนนี้ห้องเราเป็นยังไง?”  บรรยากาศห้องช่วงเวลานั้นเงียบมาก สายตาทุกคู่ของพี่ๆม.1 กำลังมองดูรอบๆบริเวณห้องของตัวเอง  แล้วก็ได้ยินเสียงพี่มายด์พูดขึ้นว่า  สะอาด แล้วก็เป็นระเบียบมากค่ะครู  หนูชอบ”     พี่ม.1ทุกคนแสดงอาการเห็นด้วยกับสิ่งที่พี่มายด์พูด ฉันเลยได้บอกกับเขาไปว่า ถ้าพี่ๆชอบ วันนี้ก็จดจำไว้นะ ว่าสิ่งของอะไรวางอยู่ตรงไหน  แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆก็ตาม  เช่น พัดลมเคยวางเก็บไว้ที่มุมไหน ก็วางเก็บให้เป็นที่ เวลาเราจะเอามาใช้งานจะได้ง่ายขึ้น  ทุกๆคนพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่ฉันพูด  แต่สำหรับตัวของฉันเองก็ยังหวั่นๆอยู่ว่าเขาจะเข้าใจเพียงไร  
                และการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น  .......ในเช้าวันต่อมา ในขณะที่ฉันกำลังเดินมาที่บ้าน  ม.1 ตามปรกติ  สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือพี่ๆ ม.1 ทุกๆคน อยู่บริเวณรอบๆบ้าน   เสียงทักทายสวัสดีเกิดขึ้นตามปรกติ แต่เสียงนั้นมาพร้อมกับภาพที่ฉันเห็นคือ พี่ม.1 ทุกๆคนกำลังขะมักเขม้น ในการทำความสะอาดในมุมของตัวเอง  โดยที่ไม่มีใครโอดครวญ ต่อสิ่งที่ตัวเองทำ ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับฉันเองอยู่ไม่น้อย   และสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นี้  ไม่ได้เกิดเพียงวันนี้วันเดียว  มันทำให้ฉันได้เห็นภาพนี้ทุกๆวัน ตลอดการได้รับหน้าที่เป็นครูประจับชั้นของพวกเขาทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น