วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เปิดวงวิจารย์กันและกัน..น้อมยินดีรับ..จะนำไปปรับปรุงตนเอง

  หนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการผู้เรียน เพื่อการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดียิ่งขึ้นไป

เช้าวันศุกร์ครูณีพาเด็กๆ ทำกิจกรรมตั้งวงพูดคุยสนทนาเกี่ยวกับเรื่องของเพื่อนๆ แต่ละคน ในห้องเรียนของเราที่อยู่ด้วยกันมากว่า 8 ปี

ประเด็นที่พูดกันในวง
  • "เราเห็นอะไรในตัวเพื่อนเราที่จะวิจารณ์ สิ่งที่เพื่อนคนนี้ทำได้ดีแล้ว สิ่งที่เห็นเพื่อนว่าอยากเสนอแนะให้ปรับปรุงในเรื่องใด / ทำไมถึงอยากให้ปรับปรุง?" และครูณีก็จพค่อยกระตุ้นด้วยคำถาม เพื่อให้ความอิ่มเอมในกิจกรรม สร้างความรื่นรมย์เพื่อให้บรรยากาศไม่ตึงเครียดจนเกินไป 
  • พอทุกคนได้วิจารย์เพื่อนคนนั้นเสร็จลง ครูก็จะย้อนถามเพื่อนคนที่ถูกวิจารย์ว่า "เรารู้สึกยังไง อยากที่จะชี้แจ้งอะไร? / เห็นต่างจากคำวิจารย์เพื่อนอย่างไร?"

     กิจกรรมสัมพันธ์นี้ จบลงในเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง วันนั้นวิจารย์กันได้เพียง 4 คนเท่านั้น ทุกคนที่ถูกวิจ่ารย์ก็เห็นถึงเหตุผลที่เพื่อนๆ ชี้แจ้งว่าทำไมเขาถึงเป็นในสิ่งที่เพื่อนๆ อยากให้เขาปรับปรุง

ผมสังเกตเห็นหลายๆ คนได้เปิดใจที่จะพูดในสิ่งที่ตนเองอยากบอกกับเพื่อนหลายๆ คน ที่มีโอกาสโดยครูเป็นผู้เชื่อมเหตุการณ์

ทุกๆ สิ่งที่สะท้อนออกมาจากความรู้สึก ผมนั่งฟังดูแล้ว..
ทั้งผู้รับสาร > ผู้ส่งสาร : ต่างบอกกันออกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ใช้อารมณ์มาพูดใส่กัน เป็นเพียงสิ่งที่ตนเองอยากให้เพื่อนๆ พัฒนากันและกัน

วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อาหารไก่ของผม







ช่วงเที่ยงวันที่ 22 สิงหาคม 2557 ขณะที่ครูณีเดินกลับบ้าน.1 ก็เจอกับพี่ๆม.2 คือพี่ฟิวส์ พี่ฟลุ๊คและพี่กระถิน ทั้ง3คนกำลังวุ่นวายอยู่กับการเก็บผักที่อยู่ข้างบ้านม.1

ครูณี : พี่ๆทำอะไรกันคะ?

พี่ฟิวส์ : เก็บผักไปให้ไก่ครับ อาหารไก่ของพวกผมหมดแล้ว.

ครูณี : แล้วพี่ๆ เก็บผักอะไรกันค่ะ ?

พี่ฟลุ๊ค: ผักตำลึง และอ่อมแซ่บครับ น้าตู่บอกว่า ผักพวกนี้ไก่ก็กินเหมือนกัน

ครูณี : แล้วผักกระเฉดน้ำหล่ะคะ ได้ไปเก็บให้ไก่กินหรือเปล่า ?

พี่ฟิวส์ : ก็ยังเก็บอยู่ครับ แต่พวกผมก็หาเก็บผักเพิ่มเติมให้มันอีก สงสารไก่ครับครู.

ครูณี : (คิดในใจ) ครูก็สงสารพวกพี่เหมือนกัน แต่รู้สึกชื่นใจมากกว่าค่ะ

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เด็กหญิง..ตัวเล็กๆ...

วันนี้ผมสังเกตแต่เช้าแล้วว่าเห็นเด็กๆ นักเรียนคนหนึ่งตั้งใจเรียนมาก ขยัน รับผิดชอบ มีจิตอาสา มีความมุ่งมั่น อดทน
ดูๆ ก็ต่างจากทุกวันตลอดการเรียนรู้ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา - เขาคือ พี่เดียร์ 

และวันนี้พี่เดียร์รับอาสาเป็น monitor ช่วยคุณครูดูแลเพื่อนๆ ด้วยความตั้งใจ..

ผมมารู้ความลับนั้นตอนบ่ายๆ ช่วงที่ช่วยคุณครูเตรียมโปรเจคเตอร์ ผมถามพี่เดียร์ว่า "วันนี้..ทำไมดูตั้งใจเต็มที่เป็น monitor และไม่กลัวครูหรือเพื่อนๆ ว่าหรือครับ?"  พี่เดียบอกว่า "หนูตั้งใจมาจากบ้านแล้วค่ะ ว่าจะมาเป็นmonitor ดูแลเพื่อนๆ ช่วยคุณครูค่ะ.."

บางอย่างการกระทำ สือถึงพัฒนาการทางความคิดของเด็กๆ แต่ละคน แตกต่างกัน การที่เด็กคนหนึ่งงอกงามไปในทางที่ดี เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบอย่างเต้มที่และบริสุทธิ์ใจ >> มันสื่อถึงการลดตัวตน เพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม อาจจะโดนต่อว่าในบางเรื่อง แต่หากเตรียมใจยอมรับมันมาดีพร้อมแล้ว ก็ย่อยจะได้รัับความสุขๆ จากทุกการกระทำที่เรามุ่งมั่น..

หลายคนแปลกที่จะแสวงหาความสุข
- ฉันต้องการความสุข 
- มีความสุขแล้ว ยังตอบโจทย์ชีวิตยังไม่ดีพอ ก็ต้องแสวงหาความสุขที่เพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ..

การจัดการกับความสุข เป็นศาสตร์เชิงลึกยิ่ง ที่แต่ละคนจะค้นพบศาสตร์นั้นเร็วหรือช้า แตกต่างกันออกไป.

วันนี้เป็นส่วนเล็กๆ ของชีวิตลูกศิษย์คนนี้ ที่มีความตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้วด้วยความเต็มที่และบริสุทธ์ใจ ไม่ว่าผลจะออกอย่างไร(ตำหนิจากผู้อื่น) เขาเต้มใจที่จะกล้าเปิดใจเข้าไปเรียนรู้กับความรับผิดชอบนั้นที่มันจะท้าทายเขาในตลอด 1 วัน
เมื่อสิ่งนั้นผ่านมาได้ด้วยความตั้งใจของเราแล้ว ความสุขจากรอบๆ ข้างจะโปรยปรายเข้ามาหาเราอย่างปลื้มปีติสุขยิ่งนัก ชื่นชมทุกๆ ความตั้งใจของศิษย์ทุกๆ คนครับ